ในช่วงเวลาพิเศษที่ได้พักผ่อนกับร้านอาหารบรรยากาศดีๆ อาหารอร่อยๆ เพลงเพราะๆ และสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับมื้อที่สำคัญ คือ เครื่องดื่ม ซึ่งเครื่องดื่มนั้น สามารถสร้างความสุขให้แก่มื้ออาหารนั้นๆ ได้เป็นอย่างดีเลยล่ะค่ะ ดังนั้นเราขอแนะนำค็อกเทล เพราะค็อกเทลถือว่า เป็นตัวเลือกของเครื่องดื่มที่น่าสนใจ ที่มีรสชาติอร่อย ดื่มง่าย เพราะมีส่วนประกอบหลายชนิด ทำให้มีความหลากหลายของรสชาติ ซึ่งค็อกเทลเหมาะกับการสังสรรค์ปาร์ตี้ของเพื่อนสาว นั่งจิบไปคุยไป แต่สำหรับใครที่สงสัยว่าค็อกเทลคืออะไร มีส่วนผสมและรสชาติเป็นอย่างไร เราจะมาทำความรู้จักกับค็อกเทลไปพร้อมๆ กันค่ะ

มารู้จักกัน…ค็อกเทลคือ?

“ค็อกเทล” (COCKTAIL) หมายถึง เครื่องดื่มผสมที่มีเหล้า (วัตถุดิบที่มีแอลกอฮอล์) 1 ชนิดหรือมากกว่าเป็นส่วนประกอบในเครื่องดื่มแก้วนั้น เครื่องดื่มผสมบางแก้ว มีส่วนประกอบที่เป็นเหล้าเป็นส่วน ประกอบชนิดเดียวหรือบางแก้ว มีส่วนประกอบที่เป็นเหล้าถึง 3-4 ชนิดค่ะ 

เหล้าหลักที่นำมาใช้ในค็อกเทลมีอะไรบ้างนะ?

ค็อกเทลนั้นมีส่วนผสมหลักคือเหล้า ซึ่งมีเหล้าหลายชนิดที่เป็นส่วนผสม ที่ทำให้ค็อกเทลมีรสชาติที่แตกต่างกัน ดังนี้

1. บรั่นดี (Brandy) เป็น เหล้าที่นิยมดื่มกันมาก เกิดจากการหมักองุ่นให้เป็นไวน์ (Wine) แล้วจึงนำมากลั่นเป็นบรั่นดี จากนั้นนำไปเก็บบ่มเป็นเวลานานให้ได้ สี กลิ่น รส ที่ดีเพิ่มขึ้นค่ะ 
2. วิสกี้ (Whisky, Whiskey) คือ สุรากลั่นที่ทำจากข้าวหรือข้าวข้าวโพดหรือ ธัญพืชชนิดใดชนิดหนึ่ง หรือหลายชนิดก็ได้ โดยนำมาหมักแล้วกลั่นให้มีดีกรีสูงขึ้น จากนั้นนำไปเก็บบ่มในถังไม้โอ๊ก เพื่อให้ได้สี กลิ่น รสที่ดีขึ้น แต่ก่อนจะนำมาบรรจุขวด บางชนิดยังนำไปปรุงแต่ง สี กลิ่น รสอีกครั้ง เพื่อให้ได้มาตรฐานตามความนิยมของผู้ดื่ม
3. ยิน (Gin) เป็น เหล้าสีขาว ที่มีกลิ่นหอมของผลจูนิเปอร์ ทำมาจากการ กลั่นข้าวหรือ Grain และผสมกลิ่นรสชาติของสมุนไพร และผลจูนิเปอร์ ยิน เป็นสุราอีกชนิดหนึ่ง ที่ได้จากการกลั่นของการหมักของกากน้ำตาล, เมล็ดธัญพืช ยินเป็นสุราขาว (ใสไม่มีสี) ที่มีความลงตัวระหว่างความ ดราย หรือ ไม่หวาน และกลิ่นรสสดชื่นของผลจูนิเปอร์ สมุนไพรและเครื่องเทศต่างๆ ซึ่งทำให้ยินแตกต่างจากสุราทั่วไปค่ะ
4. รัม (Rum)  เป็น เหล้าที่กลั่นจากอ้อยหรือกากน้ำตาล ผลิตมากตามหมู่เกาะฝั่งทะเลคาร์ลิเบียน ซึ่งปลูกอ้อยกันมาก ผลิตและจำหน่ายหลายประเทศ ซึ่งเหล้ารัมนั้น มีหลากหลายประเภท ซึ่งมีความแตกต่างกันจากวัตถุดิบ ที่นำเป็นกลั่นค่ะ และเหล้าที่นิยมนำไปผสมในค็อกเทลนั้นคือ White Rum หรือ Light Rum (รัมสีขาว) และ Silver Rum คือ รัมชนิดที่ต้องเก็บบ่มในถังไม้เพื่อให้กลิ่นรสดียิ่งขึ้น เหมาะสำหรับนำไปผสมค็อกเทลที่ไม่ต้องให้สีเปลี่ยน
5. วอดก้า (Vodka) คำว่า “Vodka” หรือ Wodka” มาจากภาษารัสเซียคือ “Zhiznennia Voda” แปลว่า “Water of Life” บ้างก็แปลว่า “Little Water” วอดก้าเป็นเหล้าสีขาวใส มีกลิ่นเพียงเล็กน้อยจนแทบไม่รู้สึก ดีกรี 40-60 ในปัจจุบัน เป็นเหล้าที่นิยมกันมาก เป็นเหล้าที่หมักจากข้าว หรือมันฝรั่งและอ้อยแล้วแต่วัตถุดิบของผู้ผลิตประเทศนั้นๆ  ผ่านการกรองและดูดกลิ่นจนเหลือสีเจือปนและกลิ่นน้อยที่สุด 
6. ตากีล่า (Tequila) ตากีล่า เป็นเหล้าสีขาวกลิ่นแรง หมักจากพืชที่เรียกว่า Mezcal ผลิตในประเทศเม็กซิโก ปกติตากีล่าจะมีสีขาว แต่บางชนิดมีสีเหลืองทองจากการเก็บบ่มในถังไม้ ปกติชาวพื้นเมืองเม็กซิโก นิยมดื่มเหล้าตากีล่าโดยไม่ผสม ในปัจจุบันนิยมนำ     ตากีล่ามาทำเป็นค็อกเทลกันมากขึ้น
7. ลิเคียว Liqueur or Cordial หรือเหล้าหวาน เป็น การผสมสุราชนิดใดก็ได้กับความหวาน และเพิ่มสี กลิ่น และรสลงไปด้วย โดยจะใช้สี กลิ่น รสของผลไม้ สมุนไพร เครื่องเทศ หรือแม้แต่ส่วนหนึ่งส่วนใดของผลไม้ก็ได้ จะเห็นว่าเหล้าหวานมีสีต่างๆ มากมาย อาจดื่มเปล่าๆ หรือ เพียวๆหรือ แบบผสมน้ำแข็ง หรือจะนำไปผสมค็อกเทลให้มีสีสวยงาม 

เครื่องดื่มค็อกเทลมีอะไรบ้าง? พร้อมรวมค็อกเทลยอดฮิตในปี 2019 ที่สายปาร์ตี้ห้ามพลาด

ส่วนมากเครื่องดื่มค็อกเทล จะมีการตั้งชื่อให้แตกต่างกันออกไปค่ะ ซึ่งบางทีนั้น เราไม่อาจคาดเดาส่วนผสมจากชื่อต่างๆ ของค็อกเทลได้  เราจะมาแนะนำค็อกเทลยอดฮิตที่น่าลองสั่ง จะได้ไม่ต้องสุ่มว่ารสชาติที่ได้นั้น จะเป็นไรอย่าง ไปปาร์ตี้คราวหน้าจะได้มั่นใจ สั่งได้ไม่มีพลาดแน่นอนค่ะ

1. Blue Margarita 

ค็อกเทลสีฟ้าสวย รสชาติเปรี้ยวอมหวาน ซึ่งประกอบด้วย  ตากีล่า บลู คูราโซ่ น้ำมะนาว และน้ำเชื่อม ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในเชคเกอร์ เขย่าเล็กน้อย10 วินาที ก็จะได้ค็อกเทลสีฟ้าสวย เหมาะกับการจิบรับลมเย็นๆ ยามค่ำ

2. Mojito 

ค็อกเทลชื่อน่ารักนี้ ประกอบด้วยรัมขาว น้ำตาลทรายแดง มะนาว และใบสะระแหน่ เป็น เครื่องดื่มสีใส หน้าตาน่าสนใจเพราะในค็อกเทล มีมะนาวหั่นแว่นและใบสะระแหน่ ใส่ไปในค็อกเทล

3. Singapore Sling 

เครื่องดื่มสีแดงสดใส ที่ดื่มแล้วสดชื่น ประกอบด้วย จิน เชอรี่บรั่นดี น้ำมะนาว น้ำเชื่อมทับทิม  น้ำเชื่อม และ โซดา 

4. Margarita  

ค็อกเทลยอดฮิต มีให้ดื่มแทบทุกร้านเลยค่ะ ส่วนผสมได้แก่ตากีล่า ทริเปิล เซค น้ำมะนาว และน้ำเชื่อม เสิร์ฟด้วยแก้วทรงสวย  รินแต่ส่วนที่เป็นน้ำลงในแก้วที่เคลือบเกลือไว้

5. Pink Lady 

ค็อกเทลนี้ สำหรับคุณผู้หญิงโดยเฉพาะค่ะ มีส่วนผสมได้แก่  จิน ทริเปิล เซค น้ำมะนาว – น้ำเชื่อมทับทิม เมื่อใส่ส่วนผสมทั้งหมดตามลงไป แล้วเขย่าแรงๆ เร็วๆ ราว 10 วินาที จะได้เครื่องดื่มสีชมพูใส รสชาติหอมหวาน 

6. Old Fashioned

ค็อกเทลตัวนี้เป็นแชมป์ในการจัดอันดับมา 5 ปีติดต่อกันเลยทีเดียวว่าเป็นค็อกเทลที่มีคนสั่งมากที่สุด น้ำตาลก้อนเขย่าผสมกับ Angostura Bitters ตามด้วยเบอร์เบิน หน้าตาออกมาเป็นสีทองแดงสวยงาม สั่งแล้วไม่ดู Old Fashion แน่นอน

7. Daiquiri

เจ้าไดคิวรี อาจจะสามารถทำออกมาได้หลายเวอร์ชันเหมือนค็อกเทลอื่นๆ แต่ส่วนประกอบหลักจะยังคงเหล้ารัม น้ำเชื่อม กับน้ำมะนาว หรืออาจจะผสมน้ำผลไม้อย่างอื่นเพื่อทำให้เป็นเมนูที่น่าใจมากขึ้น เช่น สตรอว์เบอร์รี่ ไดคิวรี เป็นต้น

8. Dry Martini

หากพูดถึงคลาสสิคค็อกเทลตลอดกาล เราก็ต้องยกให้ดราย มาร์ตินี่ (Dry Martini) เลย แต่ต้องนะวังนะเพราะดราย มาร์ตินี่คือเหล้าเพียวๆ รสชาติแรง เหมาะสำหรับคนที่ดื่มเก่ง คอแข็ง สั่งแล้วดูเป็นสาวมั่นๆ 

นอกจาก Dry Martini แล้วยังมีที่เรียก Dirty Martini ซึ่งแรงกว่ามาก เป็นเครื่องดื่มของเจมส์ บอนด์ ท้าทายพอไหมล่ะ

9. Espresso Martini

สำหรับใครที่เป็นคอกาแฟต้องโดนค็อกเทลตัวนี้ให้ได้เลยนะ เพราะมาร์ตินี่ตัวนี้ไม่ใช่แบบธรรมดา แต่เป็นแบบผสมกาแฟ และผสมเหล้าลิเคียวหวานรสกาแฟ แค่ฟังก็น่าสนใจสุดๆ ไปเลยใช่ไหมล่ะว่ารสชาติจะเป็นยังไง เพราะฉะนั้นห้ามพลาด!

10. Negroni

ค็อกเทลตัวนี้ติดอับดับสองของการเป็นค็อกเทลที่ขายดีที่สุดในโลกมา 5 สมัยซ้อน แน่นอนว่าต้องมีอะไรดีๆ ซ้อนอยู่แน่นอน เจ้าเนโกรนีประกอบด้วยยิน เวอร์มุธ คัมพารี ตกแต่งด้วยส้มเพื่อกลิ่นและความสวยงามเพิ่มเติม

11. Whiskey Sour

ค็อกเทลสีสวยสดใสตัวนี้เองก็เป็นแชมป์อันดับที่สามมาสองปีซ้อนเช่นกัน โดยในแก้วจะประกอบด้วย วิสกี้ น้ำมะนาว และน้ำตาล เรียบง่ายแต่ดูหรูหรามาก รสชาติเปรี้ยวอมหวาน บางสูตรอาจจะใส่ไข่ขาวไปด้วย แต่ไม่ต้องตกใจไป รับรองว่าไม่คาว หรือมีรสชาติสุดยี้แน่นอน ไข่ขาวเป็นเกรดแบบที่ผ่านการฆ่าเชื้อมาแล้ว ใช้สำหรับการทำค็อกเทลได้อย่างแพร่หลาย มันจะช่วยสร้างสัมผัสและความนุ่มแก่ค็อกเทลรสเปรี้ยวจัดนั่นเอง

12. Manhattan

เกือบครึ่งหนึ่งของค็อกเทลตัวนี้ประกอบด้วยเวอร์มุธแบบ Sweet & Red ผสมกับ Angostura bitters เล็กน้อย เสิร์ฟและตกแต่งในแก้วค็อกเทลทรงสูงสวยงาม

13. Aperol Spritz

เจ้า ‘อะเปโรล สปริตซ์’ อาจจะเป็นชื่อค็อกเทลที่ไม่ค่อยคุ้นหูกันมากนัก ถือเป็นค็อกเทลที่ไม่แรงมาก สดใสซาบซ่า สั่งมาจิบได้เบาๆ ไม่ต้องกลัวเมาง่าย ส่วนผสม ได้แก่ เหล้าอะเปโรล 3 ส่วน โปรเซกโก 2 ส่วน น้ำส้มเล็กน้อย ทั้งหมดเทลงบนน้ำแข็งในแก้ว ท็อปด้วยโซดา ตามด้วยชิ้นส้ม

14. Moscow Mule

การเสิร์ฟของค็อกเทลอาจจะหน้าตาแปลกตาไปสักหน่อย เพราะเสิร์ฟในแก้วลักษณะเป็นเหมือนถังน้ำแข็งเล็กๆ มีรสชาติเปรี้ยว รสเผ็ดของขิงเล็กน้อย ซึ่งในแก้วประกอบด้วยวอดก้า เบียร์รสชาติ Spicy Ginger น้ำมะนาว ประดับตามด้วยชิ้นมะนาวกับใบสาระแหน่

15. Cosmopolitan

ถือเป็นค็อปเทลที่คุ้นหูสาวๆ กันแน่ๆ กับเจ้าคอสโมโพลิแทนที่มีรสเปรี้ยวหวาน เหล้าไม่แรงมาก ดื่มง่าย ไม่หนัก ส่วนผสมที่ใช้ก็มีน้ำแครนเบอร์รี่ วอดก้า น้ำตาลนิดหน่อยเท่านั้น

คำศัพท์ที่น่ารู้เกี่ยวกับค็อกเทล

Twist

ภาษาอังกฤษคำนี้แปลว่าแก้ไขดัดแปลง ส่วนในทางค็อกเทล ‘ทวิสต์’ (Twist) คือสูตรค็อกเทลที่ดัดแปลงหรือต่อยอดมาจากสูตรแบบออริจินัลดั้งเดิมนั่นเอง ซึ่งบางเมนูดัดแปลงบางเมนู อาจจะดังขึ้นมาจนแพร่หลายกลายเป็นเมนูดังไปทั่้งโลกเลยก็มี เช่น Vesper ซึ่งมาจากหนังเรื่อง James Bond Casino Royale แบบนี้เป็นต้น

Virgin

เวลาใครสั่งค็อกเทลแล้วบอกว่า Virgin คำว่าเวอร์จิ้นในที่นี้หมายถึง เครื่องดื่มที่ผสมด้วยส่วนผสมเหมือน cocktail ธรรมดาทุกอย่าง เว้นก็แต่ว่าไม่ใส่เหล้าหรือเครื่องดื่มแอลกฮอล์นั่นเอง แต่ก็ไม่ใช่จะสั่งค็อกเทลทุกชนิดแบบเวอร์จิ้นได้นะ เพราะค็อกเทลบางชนิดก็มีแต่แอลกฮอล์เป็นส่วนประกอบหลัก เช่น ถ้าจะสั่งค็อกเทลแบบไร้แอลกฮอล์ เมนูยอดฮิตคือพวก Mojito หรือ Negroni แบบนี้เป็นต้น

Mocktails 

Mock- แปลว่าเลียนแบบ ก็คือหมายถึงเหมือนค็อกเทลทุกอย่างยกเว้นไม่มีแอลกฮอลค์ เหมือน Virgin นั่นแหละเป๊ะเลย แต่ Mocktails ก็คือจะมีเมนูของตัวเองให้คุณสั่งได้เลยตามที่ที่ร้านลิสท์ไว้ ไม่ต้องมาสั่งเวอร์จิ้นนั่นนี่ให้งงอีกต่อไป

Spirit

คำนี้จะหมายถึงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในปริมาณสูง เช่น พวกวอดก้า รัม ยิน วิสกี้ บรั่นดี หรือตากีล่า

Aperitif 

คำนี้หมายถึงเครื่องดื่มเรียกน้ำย่อย ก่อนรับประทานอาหาร ซึ่งค็อกเทลหลายเมนูที่เป็น Aperitif ได้ด้วยรสชาติเบาๆ เฉพาะตัว เช่น พวกเนโกรนี (Negroni) อะเปโรล สปริตซ์ (Aperol Spritz) คัมพารี ค็อกเทล (Campari Cocktail) หรือ จิมเล็ต (Gimlet) เป็นต้น

Highball, Lowball 

ถ้าได้ยินคำพวกนี้คือหมายถึงประเภทของแก้วนั่นเอง การเสิร์ฟค็อกเทลแต่ละชนิดจะถูกจัดเสิร์ฟในแก้วรูปร่างที่ไม่เหมือนกัน ถ้าได้ยินคำว่า Highball หรือ Lowball อะไรพวกนี้ไม่ต้องตกใจไป มันหมายถึงประเภทและรูปร่างของแก้ว ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่เราต้องกังวลมากนัก เพราะปกติบาร์เทนเดอร์จะรู้อยู่แล้วว่าต้องจัดเสิร์ฟแบบไหน

เอาหล่ะ! คราวนี้คุณก็รู้เรื่องของค็อกเทลแบบพื้นฐานกันไปแล้ว รวมทั้งวิธีที่จะสั่งให้ไม่เฟล รวมทั้งเกร็ดคำศัพท์เล็กๆ น้อยๆ กันแล้ว ปาร์ตี้คราวหน้า อย่าลืมเลือกค็อกเทลเป็นเครื่องดื่ม ที่สร้างบรรยากาศให้คุณได้ผ่อนคลายกันนะคะ แล้วอย่าลืมเลือก Cielo Sky Bar ร้านอาหารท่ามกลางบรรยากาศแบบ Rooftop สุดหรูบนถนนสุขุมวิท มาดื่มด่ำกับบรรยากาศค่ำคืนของกรุงเทพฯ บนความสูงเสียดฟ้าแบบ 360 องศาพร้อมจิบค็อกเทลรสชาติเยี่ยมจากเรา คลิกเพื่อสำรองที่นั่งทันที